พระผงปู่เวสสุวรรณ เนื้อเปลื้องทุกข์ หนานเดช กุเวรญาณ “รุ่น ปั่นปอน ปัดภัย ปลดหนี้” สำเนา

พระผงปู่เวสสุวรรณ เนื้อเปลื้องทุกข์ หนานเดช กุเวรญาณ “รุ่น ปั่นปอน ปัดภัย ปลดหนี้”

รายละเอียด:

ปู่เวสสุวรรณ ปางปั่นปอน ได้นำมวลสารจการเนื้อกระเบื้อง หลังคา โบสถ์ และ พระวิหาร จากวัดที่มีชื่อ ต่างๆ ที่มีชื่อขึ้นต้นและลงท้ายด้วย คำว่า แก้ว แหวน เงิน ทอง มา จากนั้น ได้นำว่านเกสรมงคลต่างๆ มาประจุใต้ฐาน เช่น ว่านเศรษฐี  ว่านมณี ว่านตะบอง ว่านคำ ว่านแดง ว่านขาว ยาแดง เป็นต้น จากนั้นจึงอัญเชิญ ดวงจิต ปู่เวสสุวรรณ มาทำพิธกรรม ในพุทธาภิเษก ณ โบสถ์ “ตั๋น” ความวิเศษมันอยู่ตรงนี้ โบสถ์นี้มี ประตูทางเข้า ทางออก อยู่ทางเดียว  โบสถ์ทั่วไปแล้วจะมี ประตูทางเข้าอยู่ด้านหน้า ส่วน ประตูทางออกจะอยู่ทางด้านหลัง เหมาะแก่การ ทำพิธีกรรม พุทธาภิเษก ทางด้าน มหาอุด มหาคง มหาโภคทรัพย์  จะทวีแรงเป็นเท่าทวีคูณ ถ้าเป็น โภคทรัพย์แล้วมีแต่เข้าไม่มีออก เหนียวตื๊บเลยทีเดียวเชียว เสริมด้วย ตะกรุดก่าสะท้อนสี่ภพ ประกอบไปด้วย สวรรค์ นรก บาดาล และ มนุษย์ เป็นตะกรุดที่มีฤทธิ์ มีเดช ในการปราบ อ้าย อี ภูติ ผี วิญาณ ดวงใด ตนใด ที่มัน คิดไม่ดี คิดไม่ซื่อ จ้องจะทำร้าย ไม่ว่าจะมาจากทางตรง หรือ ว่า ทางอ้อม มันก้อจักแพ้ภัยตนเอง และสะท้อนกลับไปหาเจ้าของที่ปล่อยมาทำร้าย แค่มันคิดไม่ดี คิดชั่ว คิดระยำ ตำบอน สิ่งนั้นก้อจะกลายมาทำร้ายตัวมันเอง ปู่เวสปางปั่นปอนนี้ เป็นปางที่เสวยสุข รอบฐานนั้นคือ กองเงิน กองทอง บ่งบอกถึงเรื่องรับทรัพย์ ดูแลทรัพย์สิน กระบอง สื่อถึงเรื่อง อำนาจ วาสนา การเลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง การควบคุมบริวาร มืออีกข้างลักษณะงอมือลง งุ้มนิ้วลงมาเล็กน้อย แสดงถึง การ เรียกทรัพย์ เรียกคน เรียกลูกค้า ขอสิ่งใด ท่านก็เมตตาให้ ตามคำอธิฐาน แต่ต้อง มีสัจจะ ไม่เกินกรรม และเกินความเป็นจริง บ่นบาน ด้วย ผลไม้ ดอกไม้สีแดงสด น้ำแดง น้ำเปล่า (ถ้าอยากจะให้ผลสำเร็จไวขึ้น ควรจะสวดมนต์ไหว้พระ หมั่นเจริญภาวนา และ ถวายผลบุญ ผลกุศล เป็นประจำ) ขณะจัดสร้าง ปู่เวส รุ่นนี้ ได้เกิด “อุบัติเหตุ สี่ อาถรรพ์ “

อาถรรพ์แรก “ช่างป่วย” โดยไม่มีสาเหตุ เจ็บป่วยมาสามเดือน นอนลุกไม่ขึ้น สุดท้ายต้อง ตั้งขันธ์ มาขอ ขมาลาโทษ ปู่เวส ในการจัดสร้างเพื่อให้ดำเนินงานได้ต่อไป

อาถรรพ์ที่สอง “พระแม่ธรณีปิดทาง” งานก้อทำมาเรื่อยๆ แต่เดี่ยวก้อมีเหตุ มีการณ์ ต้องได้เลื่อนเวลารับงานออกไป จนมีคนมาแจ้งให้ ลูกศิษย์ ทราบว่า ตอนขออนุญาตจัดสร้างได้ ทำพิธีบอกกล่าว พระแม่ธรณีหรือไม่ เพราะเนื้อที่ นำมาจัดสร้างนั้น มี ดิน เป็นส่วนผสม โดยมีพระแม่ธรณี เป็นผู้ดูแลอยู่ ท่านจะจัดสร้าง เทพ เทวดา หรือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต้อง ทำพิธีขอขมาก่อน ไม่งั้นงานจักไม่สำเร็จ จากนั้นก้อได้จัดพิธี ขอขมา งานจึงออกมาแล้วเสร็จไปด้วยดี

อาถรรพ์ที่สาม “ช่าง ผิดคำมั่นสัญญา ต่อปู่เวส” หลังจากที่ช่างรับขันธ์ ไปแล้วได้ มีโชค มีลาภ มีทรัพย์เข้ามา มัวแต่เอาเงินส่วนที่ได้เข้ามานี้ไป ซื้อ ความสุข ให้กับชีวิต จนงานการไม่ยอมทำ และ ก้อผิดนัดวันที่กำหนดส่งงาน กับ อาจารย์  สุดท้ายโดน เพื่อนรวมอาชีพ โกงเงินไปจำนวนหนึ่ง เจอลูกค้าไม่ยอมจ่ายตังค์เมื่อส่งมอบงาน แล้วมีค่าใช้จ่ายเข้ามาไม่หยุดไม่หย่อน จนอาจารย์ต้องส่งลูกศิษย์ไปบอกวิธีแก้

อาถรรพ์ที่สี่  “ไฟไหม้ปู่เวส” สืบเนื่องจาก การกำหนด ฤกษ์ วัน งาน พิธีพุทธาภิเษก นั้น อาจารย์ได้แจ้ง แก่ลูกศิษย์ไปแล้ว แต่ลูกศิษย์ยัง อยากจะเลื่อน ฤกษ์ ออกไปอีก จน ช่วงเย็นๆ ขณะที่ลูกศิษย์ได้ตั้ง ขันธ์เพื่อบอกกล่าว หุ่นรูปเหมือน ปู่เวส แล้วเสร็จก้อได้จุดธูปเทียนเพื่อบอกกล่าวต่อ ปู่เวส ในห้องพระ  จากนั้นก้อได้เดินออก มาข้างนอกเพื่อที่จะไปทำงานอื่นต่อในบริเวณนั้น  โดยไม่ได้คิดเฉลียวใจว่าจะเกิดอารายขึ้น จนเวลาผ่านไป ผ่านไปได้ยินเสียง เหมือนมีคนมาถีบ ประตูดัง ปั้ง!

จนเกิดความตกใจ! รีบวิ่งขึ้นไปดูในห้องพระ ปรากฏ ว่าไฟกำลังลุกไหม้ รอบๆ บริเวณโต๊พระ แลเห็น รูปปั้น ปู่เวส เกิดไฟไหม้ลุกท่วมเต็มบริเวณ นั้นไปหมด จึงต้องรีบดับไฟ แล้ว รีบติดต่อไปหาอาจารย์ ท่านบอกว่า ปู่เวส ไม่อยากรอ อีกแล้วให้รีบมา ทำตาม ฤกษ์ วัน และ เวลา พุทธภิเษก ให้เรียบร้อย คำไหนก้อต้องเป็นคำนั้น!    

“ห้ามทำเพิ่ม สร้างได้จำนวน เท่าไหร่ ต้องออกให้บูชา จำนวนเท่านั้น ไม่งั้นเจอดี”