รหัสสินค้า | SKU-02054 |
หมวดหมู่ | รุ่น เพิ่มทรัพย์ เพิ่มสุข หลวงปู่หงษ์ วัดเพชรบุรี อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ปี 2553 |
ราคา | 450.00 บาท |
สถานะสินค้า | พร้อมส่ง |
ลงสินค้า | 28 ต.ค. 2559 |
อัพเดทล่าสุด | 19 เม.ย. 2566 |
คงเหลือ | ไม่จำกัด |
จำนวน | ชิ้น |
เหรียญเสมาพระประจำวันอังคาร ทองแดงรมดำ หลวงปู่หงษ์ วัดเพชรบุรี อ.ปราสาท จ.สุรินทร์
วัตถุมงคล เสาร์ ๕ รุ่น " เพิ่มทรัพย์ เพิ่มสุข " นี้ ได้จัดสร้างขึ้นเนื่อง ในวาระปีนี้หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ มีอายุครบ 92 ปีในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2553 วัตถุมงคลเสาร์ห้า รุ่น เพิ่มทรัพย์ เพิ่มสุข ได้ฤกษ์พิธีมหาพุทธาอธิษฐานจิตปลุกเสก ประจุพระคาถาและประจุธาตุทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ เข้าสู่วัตถุมงคล ในวันเสาร์ที่ 20 มีนาคม 2553 ซึ่งตรงกับวันขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 เพื่อความสมบูรณ์ตามประเพณีและความศักดิ์สิทธิ์ เข้มขลัง ถูกต้อง เพื่อประสงค์ให้ผู้ที่จะเคารพและศัทธาในองค์หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ ที่จัดสร้างขึ้นในครั้งนี้ มีไว้บูชาที่บ้านหรือติดตัว จะอยู่เป็นสุขคุ้มภัย กันภัย และมีความเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน ค้าขายร่ำรวย โชคลาภ มหาเศรษฐี แคล้วคลาด ปลอดภัย
พระประจำวันอังคาร ได้แก่ ปางโปรดอสุรินทราหู หรือ ปางไสยาสน์ หรือ ปางปรินิพพาน
ลักษณะพระพุทธรูป: พระพุทธรูปอยู่ในพระอริยาบถนอนตะแคงขวา พระบาททั้งสองข้างซ้อนทับเสมอกัน พระหัตถ์ซ้ายทาบไปตามพระวรกาย พระหัตถ์ขวาตั้งขึ้นรับพระเศียรและมีพระเขนย (หมอน) รองรับ บางแบบพระเขนยวางอยู่ใต้พระกัจฉะ (รักแร้)
ความเป็นมา
ปางไสยาสน์ หรือบางทีก็เรียก ปางปรินิพพาน เป็นพุทธประวัติตอนที่พระพุทธองค์ได้รับสั่งให้พระจุนทะเถระปูอาสนะลงที่ระหว่างต้นรังคู่หนึ่ง แล้วทรงประทับบรรมทมแบบสีหไสยา ตั้งพระทัยไม่เสด็จลุกขึ้นอีก แต่ก็ยังได้โปรดสุภัททะปริพาชกเป็นอรหันต์องค์สุดท้ายก่อนเสด็จดับขันธปรินิพพาน บรรดาพุทธบริษัททั้งหลายพากันเศร้าโศก ร่ำไห้ คร่ำครวญถึงพระองค์ พระอานนท์และพระอนุรุทธเถระได้แสดงธรรมเพื่อปลอบโยนมหาชน พุทธศาสนิกชนเมื่อรำลึกถึงการเสด็จปรินิพพานของพระองค์ จึงได้สร้างพระพุทธรูปปางนี้ขึ้น เพื่อบูชาพระพุทธองค์
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องเล่าถึงปางนี้อีกนัยหนึ่งคือ ในสมัยพุทธกาล เมื่อพระพุทธองค์ประทับอยู่ที่พระเชตวันมหาวิหาร "อสุรินทราหู" หรือ "พระราหู" ผู้ครองอสูรพิภพ ได้สดับคำสรรเสริญถึงพระเกียรติคุณของพระบรมศาสดาจากสำนักเทพยดาทั้งหลาย ก็มีความปรารถนาอยากจะไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าบ้าง แต่ก็คิดคำนึงไปเองว่าพระพุทธเจ้าเป็นมนุษย์ คงต้องมีพระวรกายที่เล็ก หากตนจะไปเฝ้าก็จะต้องก้มมองเป็นความลำบากมาก อีกทั้งตนก็ไม่เคยก้มเศียรให้ใคร คิดแล้วก็ไม่ไปเฝ้า
ต่อมาได้ยินพวกเทวดาสรรเสริญพระพุทธองค์อีก ก็เกิดความอยากไปเฝ้าอีก จึงวันหนึ่งได้ตั้งใจไปเฝ้า พระพุทธเจ้าก็ทรงทราบด้วยญาณ รวมทั้งทราบถึงความในใจของอสุรินทราหู จึงทรงเนรมิตพระวรกายให้ใหญ่โตกว่ากายของอสุริทราหูหลายเท่าขณะเสด็จบรรทมรอรับ ดังนั้น เมื่อมาเข้าเฝ้า แทนที่อสุรินทราหูจะต้องก้มมอง กลับต้องแหงนหน้าดูพระพุทธองค์ จึงเกิดความอัศจรรย์ใจยิ่ง พระพุทธเจ้าจึงได้ตรัสสอนว่า ข่าวลือหรือเรื่องใดๆหากไม่เห็นด้วยตนเอง หรือยังไม่พิจารณาให้ถ่องแท้ ก็ไม่ควรติชมไปก่อน อีกทั้งได้พาอสุรินทราหูไปเที่ยวพรหมโลก ได้เห็นบรรดาพรหมที่มาเฝ้ามีร่างกายใหญ่โตกว่าตนทั้งสิ้น แต่พระพุทธเจ้าก็ยังมีพระวรกายใหญ่กว่าพรหมเหล่านั้นอีก อสุรินทราหูจึงลดทิฐิและหันมาเลื่อมใสในพระบรมศาสดา
หน้าที่เข้าชม | 1,613,862 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,014,220 ครั้ง |
เปิดร้าน | 17 พ.ย. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 5 ก.ย. 2568 |