สีผึ้งเทพรัญจวน ครูบาเดช กิตติญาโณ ป่าช้าบ้านใหม่รัตนโกสินทร์ ต. นาสัก อ. แม่เมาะ จ. ลำปาง

สีผึ้งเทพรัญจวน ครูบาเดช กิตติญาโณ ป่าช้าบ้านใหม่รัตนโกสินทร์ ต. นาสัก อ. แม่เมาะ จ. ลำปาง 

รายละเอียด:

ครูบาเดช ท่านเป็นพระสงฆ์ผู้บริสุทธิ์ มีวัตรปฎิบัติที่หน้าเลื่อมใส ผู้แก่กล้าไสยเวทย์วิชาอาคม มีความชำนาญทั้งในด้านคันถะธุระและวิปัสสนากรรมฐานธุระ มีความเป็นอยู่อย่างเรียบง่ายมักน้อยถือสันโดษ ชอบธุดงธ์ตามป่าเขาลำเนาไพรเข้าถ้ำและป่าช้าเป็นวัตรไม่เคยหยุดนิ่งอยู่กับที่ ท่านเป็นศิษย์เอก 5 อาจารย์ 5 สำนัก ได้ศึกษาร่ำเรียนวิชาอาคมสาย มอญ เขมร ล้านนา ลาว และกระเหรี่ยง ซึ่งอาจารย์ทั้งหมดนี้ท่านได้เจอในระหว่างทางที่ท่านเดินธุดงธ์อยู่ในป่า จึงขอฝากตัวเป็นศิษย์และได้ศึกษาร่ำเรียนวิชาอาคมและการสร้างวัตถุมงคลเครื่องรางอาถรรพณ์ จนเป็นที่รู้แจ้งเป็นจริงจนเป็นที่พอใจของอาจารย์ทุกท่านจึงได้กลับมาจำพรรษาอยู่วัดใหม่รัตนโกสินทร์ ท่านได้จัดสร้างวัตถุมงคลเครื่องรางอาถรรพณ์ขึ้นมาหลายครั้งแล้ว แต่ท่านทำแจกเฉพาะลูกศิษย์ใกล้ชิดไว้บูชาติดตัวกัน ปรากฏว่าต่างก็เจอประสบการณ์กันมากมายจนนับครั้งไม่ได้ และจากประสบการณ์นี้จึงทำให้เครื่องรางอาถรรพณ์ที่ท่านสร้างเป็นที่โด่งดังร่ำลือโจษจันไปทั่วทุกสารทิศ จนเป็นที่ต้องการและเสาะแสวงหากันมากของเหล่าบรรดาลูกศิษย์ที่ยังไม่ได้ไว้บูชา และมีลูกศิษย์บางคนนำไปใช้ในทางผิด ศิลธรรมจนเป็นที่เดือดร้อนกันไปทั่ว เมื่อท่านได้ทราบข่าวท่านจึงหยุดสร้างวัตถุมงคลเครื่องรางอาถรรพณ์ขึ้นแต่ก็ยังมีลูกศิษย์อีกมากมายเดินทางมาทั่วทุกสารทิศที่เดือดร้อนพากันมารบเร้าให้ท่านจัดสร้าง พากันมาขอพึ่งบารมีจากท่านมาขอของดีจากท่าน ท่านจึงสงสารลูกศิษย์ที่เดือดร้อนจึงได้จัดสร้างขึ้นมาอีกครั้ง นับเป็นโอกาสดีมากที่ท่านจะได้มีของดีไว้บูชากัน

มวลสารที่สำคัญในการจัดสร้างสีผึ้งชุดนี้ มีดังต่อไปนี้ 1. รังผึ้งร้างรังที่ท่านได้เก็บสะสมไว้ตอนที่ท่านเดินธุดงธ์ไปตามป่า 2. ผงว่านและผงดอกไม้ที่มีฤทธิ์อาถรรพ์โดยตรงทางด้านเมตตา 108 ชนิด 3. หัวเชื้อน้ำมันพราย 4. ผงพุทธคุณที่ท่านลบเองดังนี้ผงนะมหานิยม นะเทพรำพึง นะอกแตก นะละลวย นะหลงใหล นะร่ำไร นะอ่อนใจ นะจังงัง และยังมีผงพุทธคุณอีกหลายชนิดที่ดีเด่นทางด้านเมตตา และอุปกรณ์ที่ใช้ในพิธีหุงสีผึ้งมีดังนี้ ก้อนอิฐ 3 ก้อนนำมาจารอักขระยันต์ใช้ทำเป็นเตา ฟืนที่ใช้ก่อไฟก็ต้องเป็นไม้รักและไม้มะยมที่ลงอักขระยันต์ หม้อที่ใช้หุงต้องเป็นหม้อดินที่จารอักขระยันต์และไม้ที่ใช้คนสีผึ้งก็ต้องเป็นไม้รักหรือไม้มะยม เมื่อได้วัตถุอาถรรพ์ครบทั้งหมดแล้ว ท่านจึงนำมวลสารทั้งหมดมาทำพิธีหุงตามสูตรตำราของท่าน ก่อนทำพิธีหุงท่านจะใช้สายสิจญน์มาพันรอบพิธี แล้วห้ามใครเดินผ่านหรือเข้าใกล้บริเวณที่ท่านทำพิธี เพราะการหุงสีผึ้งนี้ท่านจะต้องใช้พลังจิตอันแรงกล้าและเข้มขลังมาก จิตก็ต้องสงบด้วย การหุงนั้นท่านจะทำพิธีตั้งขันธ์บูชาบรมครูของท่านให้มาช่วยหุงและช่วยเสกบรรจุด้วยมนต์คาถา 108 เสน่ห์หาจนครบ 108 จบแล้วจึงยกหม้อสีผึ้งนำไปปลุกเสกเดี่ยวในกุฏิอีกครั้งจนครบ 7 จันทร์ จึงนำมาบรรจุใส่ตลับและเพื่อเพิ่มฤทธิ์ให้สีผึ้งมีอานุภาพรุนแรงทางเมตตามหาเสน่ห์มากยิ่งขึ้นจึงได้นำไม้กาหลง เครือเขาหลง ว่านดอกไม้ทอง และตะกรุดนะใจอ่อนบรรจุลงในสีผึ้งโดยสีผึ้ง

นี้จะไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้เพราะท่านได้จารอักขระยันต์กำกับไว้ที่ฝาตลับสีผึ้ง ให้ใช้สีผึ้งนี้ทาที่คิ้วทั้งสองข้างและหน้าผาก จะเป็นที่ตรึงจิตตรึงใจแก่ผู้พบเห็นหรือเพศตรงข้ามดั่งต้องมนต์สะกด ใครเห็นใครรักใครหลง

   ขอย้ำ สีผึ้งนี้ใช้ทางด้านเมตตามหาเสน่ห์และมหาละลวยต่ออิสตรีนารีหรือเพศตรงข้าม สีผึ้งนี้ใช้ได้ทั้งหญิงและชาย ขอบอกท่านที่ใช้สีผึ้งนี้อาจจะต้องเหนื่อยกับการสับรางจนแทบไม่ทันเห็นผลกับตามานักต่อนักแล้ว