เขาวัวธนู ครูบาเดช กิตติญาโณ สำนักสงฆ์ ป่าช้าบ้านรัตนโกสินทร์ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง
รายละเอียด:
เขาวัวหรือหัววัวนี้ครูบาเดชได้รับมอบมาจากลูกศิษย์ที่มีอาชีพเลี้ยงวัวในหมู่บ้านนำมาถวาย จึงได้นำมาจารลงอักขระยันต์หัวใจวัวธนูไว้อย่างเต็มสูตร เป็นที่ทราบว่าครูบาเดชท่านสร้างวัวธนูได้ขลังท่านจัดสร้างมาแล้วหลายรุ่นส่วนมากท่านจะปั้นด้วยมือเสกทีละตัว จากขี้ผึ้ง หรือดินอาถรรพณ์ หรือบางครั้งท่านก็ใช้ไม้ไผ่มาสานก็มี ครูบาเดชบอกว่าวัวธนู ท่านจะใช้อะไรทำก็ได้ขลังหมด อยู่ที่คาถาอาคมและจิตที่กำกับเสกลงไปเท่านั้น แม้แต่หลวงปู่ครูบาแก้ว วัดร่องดู่ จ.พะเยา อดีตยอดพระเกจิผู้มีอาคมขลังสร้างวัวธนูได้โด่งดังยิ่งนักปัจจุบันวัวธนูของท่านเล่นหากันตัวละหลายพันบาทแถมยังหายากยิ่งนักจนมีคนกล่าวว่าวัวธนูครูบาแก้วราคาแพงกว่าวัวเป็นๆเสียอีก หลวงปู่ครูบาแก้วยังยอมรับว่าวัวธนูที่ครูบาเดชสร้างขลังแรงไม้แพ้วัวธนูของท่านเลยใช้แทนวัวของท่านได้ ครูบาเดชได้เอาวิชาวัวธนูและควายธนูมาผสมผสานกัน เคยมีคนมาลองวิชาวัวธนูท่าน ส่วนมากเผ่นเรียบสู้ฤทธิ์วัวธนูของครูบาเดชไม่ได้เรื่องฤทธิ์ของวัวธนูนี้ มีอยู่ครั้งหนึ่งมีพระครูบาอาจารย์ดังรูปหนึ่งทางเชียงใหม่(ขอสงวนชื่อ)ตั้งใจมาลองวิชาครูบาเดช แต่อยู่ไม่ได้ ท่านเล่าว่าพระครูบารูปนี้ธุดงค์มาขอปักกลดในป่าช้าด้วย พระครูบารูปนี้ ชอบเล่นของ ตกดึกพระครูบารูปนี้ ได้ปล่อยวัวธนูมาลองวิชาครูบาเดช ท่านกล่าวว่าขณะท่านนั่งวิปัสสนากรรมฐานอยู่หน้าเชิงตะกอนได้ยินเสียงดัง วี้ดๆดังลั่นทั่วป่าช้าท่านลืมตาเห็นวัวธนูตาแดงกล่ำยืนประจันอยู่ตรงหน้า ท่านจึงรู้ว่าโดนลองของแน่ๆจึงหยิบขี้ผึ้งในย่ามขึ้นมาปั้นภาวนาปลุกเสกแล้วโยนออกไป กลายเป็นวัวธนู ชนกันดังสนั่นลั่นทั่วป่าช้า ส่วนตัวท่านยังคงนั่งกำหนดจิตภาวนาคาถาตามที่ได้เรียนมาตลอดจนวัวธนูนั้นล่าถอยหายไป เช้ารุ่งขึ้น ครูบาเดชท่านได้เดินไปหาอาจารย์ที่มาขอปักกลดอยู่ด้วยแต่ไม่พบแต่อย่างไดจึงทราบว่าอาจารย์ท่านนี้มาลองวิชาแต่สู้ฤทธิ์วัวธนูครูบาเดชไม่ได้จึงรีบหนีไปก่อนรุ่งเช้า
วัวธนูนี้บูชาติดบ้านสะกดอาถรรพณ์ ราวีวิญญาณร้ายไม่ทำลายวิญญาณดี ทางสามแพรง เจ้าที่แรง แก้ฮวงซุ้ย ที่ทางขายยากเจ้าที่หวงให้เอาวัวธนูนี้ไปบูชา ช่วยสะกด ลดอาถรรพณ์ค้าขายได้คล่อง ใช้ป้องกันภัยได้108 ประการอธิฐานเอาเถิด