พระปิดตาภควัมปติ เนื้ออัลปาก้า บรรจุกริ่ง หลวงพ่อไสว วัดปราสาทพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์

พระปิดตาภควัมปติ เนื้ออัลปาก้า บรรจุกริ่ง หลวงพ่อไสว วัดปราสาทพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์
รุ่น ดวงเศรษฐี”
  วัตถุมงคลรุ่น ดวงมหาเศรษฐี นับเป็นวัตถุมงคลสำคัญยิ่งรุ่นหนึ่งที่ หลวงพ่อไสว พระเกจิอาจารย์แห่งเขาพนมรุ้ง ได้อธิฐานจิตปลุกเสก เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2553 ตรงตามตำหรับโบราณในการจัดสร้างวัตถุมงคล ให้มีพุทธคุณพุธทานุภาพเข้มขลังด้วยพุทธคุณนานัปการ ประจุธาตุทั้ง๔ คือดิน น้ำ ลม ไฟ  สู่วัตถุมงคลรุ่นดวงเศรษฐี เพื่อความสมบูรณ์ตามประเพณี และความศักดิ์สิทธิ์ เข้มขลัง ถูกต้อง  เพื่อประโยชน์จะให้ผู้ที่เคารพและศรัทธา ในองค์๕ หลวงพ่อไสว ที่จัดสร้างในครั้งนี้มีไว้บูชากับบ้านหรือติดตัว จะอยู่เย็นเป็นสุข คุ้มภัย กันภัย ละมีความเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน ค้าขายร่ำรวย โชคลาภมหาเศรษฐี แคล้วคลาด ปลอดภัยดีนักแล

พระภควัมปติเป็นที่สุดแห่งเมตตามหานิยม

  เมื่อกล่าวถึง พระสีวลีมหาเถระผู้เป็นเอกทางโชคลาภและโภคทรัพย์แล้ว ก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องกล่าวถึงพระอรหันต์สาวกอีกองค์หนึ่งซึ่งมากด้วยบารมียิ่งนัก เป็นที่สุดในเรื่องเมตตามหานิยม ถึงขนาดที่ยามใดที่พระสีวลีเถระออกจาริกแสวงบุญไปไกลเกินกว่าจะกลับมาได้ในเวลาที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะต้องจาริกพาคณะสงฆ์ไปในถิ่นทุรกันดาร พระพุทธองค์จะทรงโปรดให้นิมนต์พระภควัมปติ  หรืออีกนามหนึ่งคือ พระมหาสังกัจจายน์ไปด้วยทุกครั้ง เพราะเป็นผู้มีบุญฤทธิ์ในทางเมตตามหานิยม ทำให้ทั้งเทวดาและประชาชนพากันมาชุมนุมใส่บาตรมิขาดสาย หมู่พระสงค์ที่ตามเสด็จก็มิต้องลำบากในการบิณฑบาต
   สำหรับประวัติของพระภควัมปตินี้ นามเดิมของท่านคือ “กาญจน์” เกิดในตละกูลพราหมณ์  แห่งกรุงอุชเชนี ด้วยเหตุที่มีผิวพรรณงามดั่งทองคำ รูปร่างงามสง่า จึงได้ชื่อว่า “กาญจน์”ท่านได้เรียนรู้ในไตรเพทจนเจนจบ ได้เป็นพราหมณ์ปุโรหิตแทนที่บิดาของท่านในสมัยพระเจ้าจันทรปัตโชติ จนเมื่อได้ฟังพระธรรมเทศนาของพระองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็มีดวงตาเห็นธรรม บรรลุพระอรหันต์  ได้อุปสมบทโดยวิธีเอหิภิกขุอุปสัมปทา ได้ฉายาว่าพระมหากัจจายนะ ซึ่งเป็นผู้มีผิวพรรณงดงามดั่งทองคำ ไม่ว่าท่านจะเดินทางไปแห่งหนใด มวลเทพยดาและมนุษย์จะสรรเสริญว่าพระบรมศาสดาเสด็จมา ด้วยเหตุที่ท่านมีรูปลักษณ์ละม้ายคล้ายองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นเอง
   และในกาลหนึ่งที่ พระมหากัจจายนะ ได้เดินทางสู่เมืองโสเรยนะ ได้เดินสวนทางกับบุตรเขยชายเศรษฐีแห่งเมืองนี้เข้า พอบุตรชายเศรษฐีได้เห็นรูปงามดั่งทองของพระมหากัจจายนะจึงรำพึงในใจว่า “เราอยากได้ภริยาที่มีผิวพรรณงดงามดังพระองค์นี้” และด้วยอำนาจอภินิหารของพระมหากัจจายนะจึงบันดาลให้บุตรเศรษฐีอันเป็นไปกลายร่างเป็นสตรีในบัดดล  เมื่อบุตรเศรษฐีได้กลายร่างเป็นหญิงสาวบริบูรณ์แล้ว  จึงมีความละอายใจ  หลีกเร้นหลบหน้าผู้คนหนีหายไปสู่เมืองตักสิลา จนได้ไปเป็นภรรยาของเศรษฐีแห่งเมืองนั้นจนมีบุตรด้วยกันสองคน ครั้นในกาลต่อมา นางได้พบเพื่อนเก่าจากเมืองโสเรยยะ จึงได้พูดจาแสดงหลักฐานต่าง ๆ จนเพื่อนยอมเชื่อ แล้วแนะนำให้ไปขอขมาต่อพระมหากัจจายนะผลบาปจะได้ลดน้อยลง  นางจึงได้เดินทางไปกับเพื่อนเข้าพบพระเถระ และกล่าวคำขมาในสิ่งผิดบาปที่ได้ล่วงเกินไป
    พอพระมหากัจจายนะได้ทราบ ท่านกล่าวให้อภัยให้ บุตรชายเศรษฐีจึงได้กลับกลายเป็นชายดังเดิม  และเกิดมีดวงตาเห็นธรรม จึงขออุปสมบทในสำนักของพระมหาเถระนั้นเอง  และจากมูลเหตุนี้ประกอบกับมีผู้คนทั้งชายหญิงและเทพยดามักเข้าใจผิดคิดว่า พระมหากัจจายนะ คือ พระพุทธองค์ อีกทั้งบรรดาสาวแก่แม้หม้ายทั้งหลายมักหลงยึดติดในรูปกายอันงดงามของท่าน จึงเกิดความสลดสังเวชในใจของพระมหาเถระ จึงได้เข้าเฝ้าพระพุทธองค์ของพุทธานุญาต และพระบารมีแปลงร่างเป็นพระภิกษุที่มีรูปร่างอ้วนเตี้ยลงพุงพลุ้ย ดูน่าเกียดตั้งแต่นั้นมา ด้วยปฐมเหตุนี้โบราณจารย์จึงได้สรรค์สร้างรูปพระปิดตาในลักษณะอ้วนลงพุงแล้วเรียกตามปากปาฏิหาริย์ว่า พระปิดตา หรือ พระปิดทวาร และพระภควัมปติ หรือพระภควัมบดี
   ซึ่งหลายท่านที่ไม่เข้าใจหลงคิดไปว่า พระปิดตานั้นให้คุณทางมหาอุดและคงกระพัน ใครมีบูชา แล้วจะยากจน ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดอย่างยิ่ง พระพุทธคุณในองค์พระปิดตา หรือพระภควัมปติ นั้น เปี่ยมล้นไปด้วยพลังแห่งเมตตามหานิยม เป็นเสน่ห์แก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง  ใครมีบูชาติดตัวหรือบูชาไว้ประจำบ้านเรือนแล้วหมั่นสวดมนต์ไหว้พระ มีแต่จะรวยและโชคดี ส่วนอิทธิฤทธิ์ทางแคล้วคลาดและคงกระพันชาตรี เป็นเรื่องพลังจิตที่เกจิอาจารย์ผู้สร้างท่านประจุพลัง และอธิษฐานจิตไว้เป็นการเฉพาะเจาะจงอีกส่วนหนึ่งเท่านั้น ดังนั้น พระภควัมปติ จึงเป็นที่สุดแห่งเมตตามหานิยมอย่างยิ่ง เป็นยอดเสน่ห์แห่งผู้ครอบครองบูชา