รหัสสินค้า | SKU-01672 |
หมวดหมู่ | หลวงพ่อไสว หิริสัมปันโน วัดปราสาทพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์ ( Luang Pho Sawai Wat Prasat Phanom Rung ) |
ราคา | 400.00 บาท |
สถานะสินค้า | พร้อมส่ง |
ลงสินค้า | 16 ต.ค. 2559 |
อัพเดทล่าสุด | 5 มี.ค. 2564 |
คงเหลือ | ไม่จำกัด |
จำนวน | ชิ้น |
พระแม่นางกวัก ลอยองค์ ชุบ เงินพ่นทราย หลวงพ่อไสว วัดปราสาทพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์
รุ่น ดวงเศรษฐี
วัตถุมงคลรุ่น ดวงมหาเศรษฐี นับเป็นวัตถุมงคลสำคัญยิ่งรุ่นหนึ่งที่ หลวงพ่อไสว พระเกจิอาจารย์แห่งเขาพนมรุ้ง ได้อธิฐานจิตปลุกเสก เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2553 ตรงตามตำหรับโบราณในการจัดสร้างวัตถุมงคล ให้มีพุทธคุณพุธทานุภาพเข้มขลังด้วยพุทธคุณนานัปการ ประจุธาตุทั้ง๔ คือดิน น้ำ ลม ไฟ สู่วัตถุมงคลรุ่นดวงเศรษฐี เพื่อความสมบูรณ์ตามประเพณี และความศักดิ์สิทธิ์ เข้มขลัง ถูกต้อง เพื่อประโยชน์จะให้ผู้ที่เคารพและศรัทธา ในองค์๕ หลวงพ่อไสว ที่จัดสร้างในครั้งนี้มีไว้บูชากับบ้านหรือติดตัว จะอยู่เย็นเป็นสุข คุ้มภัย กันภัย ละมีความเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน ค้าขายร่ำรวย โชคลาภมหาเศรษฐี แคล้วคลาด ปลอดภัยดีนักแล
นางกวัก คือ รูปเคารพที่ไว้กราบไว้บูชาเพื่อให้การค้าเจริญ มักวางไว้หน้าร้าน เพื่อเรียกลูกค้า
ตำนานพระแม่นางกวัก
นางกวัก คือ รูปเคารพที่ไว้กราบไว้บูชาเพื่อให้การค้าเจริญ มักวางไว้หน้าร้าน เพื่อเรียกลูกค้า
ประวัติตามความเชื่อไทยโบราณนางกวักเป็นเทพีแห่งขวัญหรือจิตวิญญาณในตำนาน ไทยโบราณ มีแห่งกำเนิดมาจากความเชื่อท้องถิ่นของชนชาติไทยแต่ดั้งเดิมก่อนที่จะมี ศาสนาฮินดูเข้ามาผสมจนกลายเป็นตำนานอีกเรื่องไป ความเชื่อในเรื่องนางกวักปรากฏอยู่ในความเชื่อท้องถิ่นดั้งเดิมของชนกลุ่ม ไท-กะไดเป็นเสมือนผีที่คอยเรียกเงินเรียกทองและอารักษ์ร้านค้าที่รูปเคารพ นางกวักได้ไปตั้งอยู่
ประวัติตามที่ปรากฎในความเชื่อทางพระพุทธศาสนา เมื่อคนไทยได้รับวัฒนธรรมและความเชื่อของชาวฮินดูเข้ามาจึงทำให้คนไทยมีการ ลากทับของวัฒนธรรมนำมาสู่ตำนานของนางกวักอีกตำนานหนึ่ง
นางกวักชื่อจริงว่า สุภาวดี บิดาชื่อ สุจิตพราหมณ์ มารดาชื่อ สุมณฑา เกิดที่เมืองมัจฉิกาสัณฑ์ (อยู่ห่างไม่ไกลจากเมืองสาวัตถี) มีครอบครัวประกอบอาชีพทำมาค้าขาย ต่อมาสุจิตตพราหมณ์ผู้เป็นพ่อ ได้ขยายกิจการซื้อเกวียนมา 1เล่ม นำสินค้าไปเร่ขายในต่างถิ่น บางครั้งบุตรสาวขออนุญาตเดินทางไปด้วย เพื่อเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ ระหว่างการค้าขาย
สุภาวดีได้มีโอกาสพบกับ "พระกัสสปเถระ" เป็นอริยสงฆ์แสดงธรรม หลังจากสุภาวดีฟังธรรมเทศนาอย่างตั้งใจแล้ว พระกัสสปเถระเจ้าได้กำหนดจิตเป็นอำนาจจิตพระอรหันต์ ประสิทธิ์ประสาทพรให้สุภาวดีและครอบครัว โดยได้ตั้งกุศลจิตประสาทพรเช่นนี้ทุกครั้งที่สุภาวดีมีโอกาสไปฟังจนจบ อำลากลับ ต่อมา สุภาวดีได้เดินทางติดตามบิดาไปทำการค้า และมีโอกาสฟังธรรมพระอริยสงฆ์อีกท่านหนึ่ง นามว่า "พระสิวลีเถระเจ้า" สุภาวดีได้ฟังธรรมอย่างตั้งใจ สุภาวดีจึงมีความรู้แตกฉานในหลักธรรมต่างๆ เป็นอันมาก พระสิวลีเป็นผู้มีชีวิตอัศจรรย์กว่าพระสงฆ์อื่น คือ ท่านอยู่ในครรภ์มารดานานถึง 7ปี 7 เดือน จึงคลอดออกมา พร้อมด้วยวาสนา บารมี ที่ติดกับวิญญาณธาตุของท่าน ท่านจึงเป็นผู้มีลาภสักการบูชามาหาท่านตลอด เมื่อถึงคราวจำเป็นและต้องการ ทุกครั้งที่สุภาวดีได้ฟังธรรมและลากลับ พระสิวลีเถระเจ้าได้กำหนดกุศลจิต ประสาทพรให้สุภาวดีและครอบครัว เช่นเดียวกัน จิตของสุภาวดีจึงได้รับประสาทพรจากพระอรหันต์ถึงสององค์ ส่งผลให้บิดาทำการค้าได้กำไรไม่เคยขาดทุน นางได้รับพรว่า "ขอให้เจริญรุ่งเรืองไพบูลย์ด้วยทรัพย์สินเงินทอง จากการค้าขายสินค้าต่างๆสมความปรารถนาเถิด" บิดารู้ว่าสุภาวดีคือผู้ที่เป็นสิริมงคลที่แท้จริง เป็นที่ไหลมาแห่งทรัพย์สมบัติของครอบครัว ครอบครัวร่ำรวยขึ้นเป็นมหาเศรษฐีมีเงินทองและกองเกวียนสินค้ามากมาย เทียบได้กับธนัญชัยเศรษฐี บิดาของวิสาขาแห่งแคว้นโกศล บิดาของสุภาวดีได้ฟังธรรมพระพุทธเจ้า ปฏิบัติธรรมด้วยความศรัทธา เมื่อนางสิ้นชีวิตแล้ว ชาวบ้านจึงปั้นรูปแม่นางสุภาวดีไว้บูชา ขอให้การค้ารุ่งเรือง และความเชื่อดังกล่าวนี้ ก็แพร่หลายเข้ามายังดินแดนสุวรรณภูมิ จากการเผยแพร่ของพราหมณ์ และยังคงเป็นความเชื่อที่สืบมาจนถึงทุกวันนี้
หน้าที่เข้าชม | 1,614,140 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,014,498 ครั้ง |
เปิดร้าน | 17 พ.ย. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 5 ก.ย. 2568 |